พฤษภาคม 9, 2024

ผู้บริหารบริษัททีซีจี แถลงฟ้องเจเคเอ็น เรียกค่าเสียหาย 1 พันล้าน เอาผิดหมิ่นประมาทด้วย อ้างปมทำธุรกิจสกุลเงินดิจิทัลที่ร่วมมือกัน

เมื่อ cnypharmacy.com เวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ย.66 ที่โรงแรมดิ เอมเมอรัล รัชดา นายจักรพันธ์ ปุณยปภา ผู้บริหาร บริษัท ทีซีจี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป จำกัด พร้อมนายขจรยศ จะริยะมา และนายมงคล ศรีวิราช ทนายความ แถลงยื่นฟ้องบริษัท เจ เค เอ็น โกลบอล กรุ๊ป พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้านบาท กรณีเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อสาธารณะเกี่ยวกับโครงการ MU COIN ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ร่วมมือกัน ทั้งยังปิดบริษัทที่ถือหุ้นร่วมกันโดยไม่แจ้งต่อหุ้นส่วน ส่งผลให้พนักงานถูกเลิกจ้าง

นายจักรพันธ์ กล่าวอ้างว่า แรกเริ่มบริษัททีซีจี ดำเนินกิจการเกี่ยวกับอินฟลูเอ็นเซอร์เอเจนซี่ จนมาสนใจทำธุรกิจผลิตสินค้าและลงทุนกับบริษัทที่ผลิตเครื่องดื่ม โดยถือหุ้นร่วมกับบริษัทเจเคเอ็น ก่อนจะมาดำเนินกิจการสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งจดทะเบียนบริษัทที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โดยใช้มูลค่าทองคำเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งนี้เนื่องจากบริษัททีซีจี ต้องการสร้างแบรนด์ให้กับสกุลเงินตัวเอง จึงผุดโครงการมิสยูนิเวิร์ส คอยน์ หรือ MU COIN ที่ลงนามความร่วมมือกับบริษัทเจเคเอ็น ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่รูปแบบการระดมทุน ซึ่งตามแผนจะปล่อยสู่ตลาด 3,000 ล้านเหรียญ มูลค่า 50,000 ล้านบาท

นายจักรพันธ์ กล่าวอ้างว่า แต่ต่อมาบริษัทเจเคเอ็น ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะเรื่องโครงการ MU COIN โดยอ้างว่า “บริษัทเจเคเอ็น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสกุลเงินดิจิทัล สกุลเงินดังกล่าวเป็นของปลอม ขออย่าร่วมซื้อ” ทั้งที่ไม่เคยมีปัญหาการทำงานใดๆ และพร้อมปล่อยสกุลเงินนี้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว

นายจักรพันธ์ กล่าวว่า บริษัททีซีจี จึงฟ้องร้องต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบริษัท เจเคเอ็น โกลบอลกรุ๊ป และนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท พร้อมแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ศาลประทับตรารับฟ้อง เลขคดีดำที่ อ.2860/2566 มีนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 18 ธ.ค.นี้ โดยบริษัททีจีซี ยังเตรียมฟ้องร้องต่อน้องสาวนายจักรพงษ์ และเจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อสาธารณะเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายังไม่เคยได้พูดคุยกับนายจักรพงษ์ แต่ได้รับจดหมายแจ้งมาว่าจะฟ้องร้องกลับ

นายจักรพันธ์ กล่าวอีกอ้างว่า คดีต่อมายังแจ้งความเพิ่มเติมต่อบริษัทเจเคเอ็น ที่สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ในข้อหายักยอกทรัพย์ หลังทราบว่าโรงงานผลิตเครื่องดื่ม ที่เป็นผู้ถือหุ้นร่วมกันได้ปิดตัวลงและขนย้ายทรัพย์สินบางส่วนออก โดยไม่แจ้งผู้ถือหุ้นให้ทราบ จนทำให้พนักงานถูกเลิกจ้าง หลังจากนี้จะร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพื่อให้ตรวจสอบการบริหารงานของบริษัทเจเคเอ็น ที่ขอยื่นฟื้นฟูกิจการอยู่นั้น สามารถปิดบริษัทได้หรือไม่

อ่านข่าวเพิ่มได้ที่ : https://www.khaosod.co.th

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *