พฤษภาคม 19, 2024

ชลน่าน เผยรายชื่อ ครม.เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แจงปมสส.อีสานโวยเพื่อไทย ไม่ได้กระทรวงเกษตรฯ ย้ำชัดเดินหน้านโยบายของพรรคเป็นหลัก

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 28 ส.ค.2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค มารับหนังสือจากสมาคมชาวไร่อ้อยพิษณุโลกและพิจิตร ที่มาแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ คนที่ 30 ขอให้ตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว

รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ เร่งจ่ายเงินอุดหนุนช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดเข้าโรงงานในอัตรา 120 บาทต่อตันอ้อย ตามนโยบายของภาครัฐที่รณรงค์ให้ตัดอ้อยสด ลดการเผาไร่อ้อยก่อนตัดเพื่อลดฝุ่น PM2.5 เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนการเก็บเกี่ยวผลผลิตและเป็นแรงจูงใจให้ชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดสะอาดเข้าสู่โรงงาน

นพ.ชลน่าน ร้านขายยาใกล้ฉัน ร้านขายยา ร้านขายส่งยา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่พรรคเพื่อไทยกำลังรวบรวมรายชื่อจากพรรคร่วม เพื่อเสนอกับนายเศรษฐา นำเข้าสู่การพิจารณาเรื่องคุณสมบัติ ขณะนี้รายชื่อเกือบ 100% โดยอาจจะพิจารณาวันนี้เป็นโอกาสใกล้ๆ สุดท้าย

เมื่อถามว่ามีรายงานว่า สส.อีสานไม่พอใจการแบ่งโควตากระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการที่ให้พรรคอื่นไป นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราได้รับรู้ความต้องการมาตลอด พรรคมีสมาชิกเกือบทุกพื้นที่ มีสส.ที่รับปัญหาจากประชาชน ซึ่งเรารับรู้ปัญหามาตลอดว่าสิ่งที่เขาต้องการและอยากได้

พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลควรดูแลกระทรวงไหนอย่างไร โดยเฉพาะเน้นกระทรวงด้านเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชนมากที่สุด แต่เราอยู่ในฐานะที่ต้องมีพรรคร่วมรัฐบาล การเจรจาต่อรอง และการทำงานร่วมกัน เพื่อเป้าหมายร่วมกัน ต้องนำเข้ามาพิจารณาด้วย ในหลักการเหล่านี้ทำให้บางกระทรวงที่เราคาดหวังว่าเราจะทำให้ประชาชน อาจจะไม่เป็นไปตามความต้องการ ต้องขออภัย เราในฐานะที่ไม่ได้เป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด จำเป็นต้องมีพรรคร่วมรัฐบาล เรามี 141 เสียงต้องหาเพิ่มอีกมาก ทำให้มีข้อจำกัด

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า เราเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา พรรคมั่นใจว่านโยบายที่เราได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เราจะใช้นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นหลักในการขับเคลื่อน ฉะนั้นรัฐมนตรีไม่ว่าจะมาจากพรรคไหนก็ตาม เรามีข้อผูกพันตรงนี้ไว้แล้ว และจะนำนโยบายของพรรคอื่นๆ มาเสริมให้เข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งเขาก็มีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายของพรรคเพื่อไทยไปสู่ประชาชน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ชดเชยได้

เมื่อถามว่านโยบายพักหนี้เกษตรกรของพรรคจะไม่เป็นอุปสรรคต่อกระทรวงเกษตรฯ ที่มีรัฐมนตรีมาจากพรรคอื่นใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะต้องพูดคุยกัน และนโยบายเราได้มีการพูดคุย แถลงในนามพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว ว่าเราจะใช้นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก และจะเขียนเป็นนโยบายของรัฐบาลออกมา

เมื่อถามถึงกระแสข่าวรมว.กลาโหมเป็นชื่อพลเรือนเข้าไปดู จะควบคุมกระทรวงได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่สิ้นสุด และยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นพลเรือนหรือมียศ มีตำแหน่งหรือไม่ แต่ในยุคใหม่กลไกการบริหารราชการแผ่นดิน ในฐานะผู้บริหารจะสามารถบริหารกระทรวงนั้นๆ ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลได้ เชื่อว่าคงไม่เป็นประเด็น โดยเฉพาะในรัฐบาลเราที่สร้างความสมานฉันท์ ความปรองดอง ลดความขัดแย้ง ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน รวมทั้งเชื่อว่าไม่ว่าพลเรือน ทหาร หรือตำรวจ จะเข้ามาช่วยกันทำงาน เพื่อขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายของประเทศและประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกลุ่มไลน์สส.พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 27 ส.ค. กลุ่มสส.อีสาน ได้แสดงความไม่พอใจ กรณีโผ ครม.ที่กระทรวงเกษตรฯ ตกไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ได้อยู่ในการดูแลของพรรคเพื่อไทย โดยต่างแสดงความคิดเห็นว่าตอนหาเสียงพรรคขายนโยบายด้านการเกษตรไปเยอะ แต่พอไปอยู่กับพรรคอื่น อาจไม่สามารถผลักดันนโยบายที่หาเสียงไปไว้ได้ อาทิ การพักหนี้เกษตรกร การให้โฉนดที่ดินแก่ประชาชน

ถ้าพรรคร่วมผลักดันนโยบายของตัวเองไป ผลงานที่ได้จะตกไปเป็นของพรรคร่วม ไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทย และอาจทำให้เสียคะแนนเสียงในส่วนนี้ไปได้ และสส.ที่แสดงความคิดเห็นต่างอยากให้คนของพรรคอย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ ทำหน้าที่รมว.เกษตรฯ เพราะเห็นถึงความสามารถ และนายสมศักดิ์ ก็แสดงความคิดเห็นอยากพัฒนาชีวิตเกษตรกรและเดินหน้านโยบายพรรค เพื่อเกษตรกรที่เป็นฐานเสียงสำคัญของประเทศ จึงอยากให้ทำหน้าที่ตรงนี้มากกว่าให้เป็นของพรรคร่วม เพื่อหวังให้พรรคได้คะแนนนิยมที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย

อ่านข่าวเพิ่มได้ที่ : https://www.khaosod.co.th

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *