อนุทิน จ่อออกกฎกระทรวงฯ ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ตี 4 นำร่อง 4 จังหวัด ส่วนร้านอาหาร เล็งให้เปิดถึงตี 2 เผย ตั้งชุดเฉพาะกิจ ปกครอง-ตร. ตรวจสถานบันเทิง
เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 3 พ.ย. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังประชุมแผนบูรณาการการท่องเที่ยว ในการเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. นำร่องจังหวัด ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี และกทม. จะมีความชัดเจนเรื่องโซนนิ่งเมื่อไหร่
นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้มี ร้านขายยาใกล้ฉัน ร้านขายยา ร้านขายส่งยา รายละเอียดประเภทของสถานบริการ ทั้งสถานบริการที่ได้รับอนุญาตและอยู่ในโซนนิ่งอยู่แล้ว จะเปิดให้ถึง 04.00 น. กับร้านอาหารที่คล้ายสถานบริการ มีเวลาปิด 24.00 น. ตรงนี้จะหาทางให้เปิดได้ถึง 02.00 น. แต่ให้ขายแอลกอฮอล์ได้แค่ 24.00 น. และไม่สามารถเล่นดนตรีได้ เพียงแต่ขยายเวลาให้นั่งต่อได้
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับร้านที่ไม่มีใบอนุญาตแต่เปิดเกินเวลาก็จะเข้าลักษณะร้านอาหาร ถ้าไม่ขายแอลกอฮอล์ ไม่มีดนตรี จะเปิดถึงเช้าก็ไม่มีใครว่า แต่ถ้าขายแอลกอฮอล์ จะได้ถึงแค่เที่ยงคืน ทั้งนี้ ที่จะขยายเวลาเพราะเราต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถ้าผู้ประกอบการสามารถขายอาหารเพิ่มได้ ก็จะมีการจ้างงาน ทำให้มีรายได้เพิ่ม
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนการจัดโซนนิ่งในพื้นที่ท่องเที่ยว นายกฯ ระบุต้องไปดู เพราะนักท่องเที่ยวกินข้าวเย็นกัน 22.00 น. ถ้าไปจำกัดเวลาแค่ 24.00 น. ก็สั่งอาหารได้น้อย หากขยายเวลาแล้วอยู่ในโซนนิ่ง มีการควบคุม มีใบอนุญาตถูกต้องก็เปิดได้ อาจไม่ทั้งหมดเพราะมีกฎหมายกำกับไว้ แต่พยายามจะคลายให้มากที่สุด
นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้กระทรวงมหาดไทย รับบัญชาจากนายกฯ และคุยกับตำรวจแล้ว โดยจะทำร่างประกาศกฎกระทรวงออกมาให้สอดคล้องกัน และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ก่อนประกาศลงราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับ และต่อไปกระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ออกเป็น พ.ร.บ.ให้อำนาจผู้ว่าฯ สามารถประกาศพื้นที่โซนนิ่งและเวลาเปิด-ปิดได้ ซึ่งตนเห็นด้วย เพราะหากจะขอขยายเวลาเปิด-ปิดแต่ละครั้งแล้วต้องไปถึงขั้นแก้กฎหมาย จะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวลำบาก
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอยู่ในสถานบันเทิง ที่เปิดเกินเวลา ในจ.เชียงใหม่ จะดำเนินการอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดก็ตามถ้าไม่ได้เข้าไปเพื่อปฏิบัติงาน เช่น ไปสืบหรือหาข่าว ถ้าไปแบบเฮฮาก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยอธิบดีกรมการปกครองต้องดำเนินการ แต่ทั้งหมดต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าไปทำอะไร ยืนยันว่ากฎหมายต้องเท่าเทียมกันทุกคน ไม่ต้องกังวล
เมื่อถามว่าหากขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง อำนาจในการตรวจสอบจะอยู่ที่ฝ่ายปกครองเป็นผู้เข้าไปดูแลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งฝ่ายปกครองดูแล และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแล ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ปกครองไปอยู่ในสถานบันเทิง ตนได้หารือกับ ผบ.ตร. อธิบดีกรมการปกครอง โดยจะร่วมกันทำงาน มีชุดเฉพาะกิจปฏิบัติงานด้วยกันทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เกิดการกลั่นแกล้งใคร หรือชิงกันทำงานเอาหน้าเอาตา เพื่อให้อีกฝ่ายเดือดร้อน ปัญหาจะได้หมดไป
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เมื่อพูดคุยกับ ผบ.ตร.ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี ขณะที่มหาดไทยก็จะให้ความร่วมมือเต็มที่ จากนี้ไปผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะประสานงานและร่วมมือกันจัดระเบียบเพื่อให้สังคมสงบเรียบร้อย
