พิธา แซวถูกเชิญพูดเรื่องประชาธิปไตยช่วงนี้ เหมือนจังหวะนรก โบ๊ะบ๊ะ เผยโหวตนายก มีสว.สัญญาจะโหวตให้ตามเสียงข้างมาก แต่วันโหวตจริงไปอยู่ญี่ปุ่น ยุโรป แค่ไม่มา ก็ล้มแคนดิดเดตนายกฯ ที่มาจากประชาชนได้
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2566 ที่หอประชุมใหญ่ อาคารกิตติยาคาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้านขายยาใกล้ฉัน ร้านขายยา ร้านขายส่งยา เข้าร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศและเป็นวิทยากรนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ประจำปีการศึกษา 2566 รวมถึงพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆกับนักศึกษาในฐานะศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
ก่อนขึ้นบรรยายพิเศษ นายพิธา ได้ร่วมเต้นแจวเรือในช่วงกิจกรรมสันทนาการ อย่างสนุกสนาน ร่วมกับกิจกรรมของน้องๆ นักศึกษา ซึ่งทางกองสันทนาการแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้คำว่า “แจวเรือจะไปสภา ขอเชิญพิธาลุกขึ้นมาแจว”
จากนั้นนายพิธา กล่าวตอนหนึ่งว่า หัวข้อที่มาพูดวันนี้คือ เรื่องประชาธิปไตยเสรีภาพและความยุติธรรม ใจคออาจารย์ จะให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. รวบรวมเสียงได้ 312 เสียง แต่รัฐสภาปัดตกไป ทำให้เข้าบ้านใหม่ที่ชื่อทำเนียบรัฐบาลไม่ได้ มาพูดเรื่องนี้จริงๆหรือ
“แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 แทนที่วันนี้จะอภิปรายอยู่ในสภา กลับมีโอกาสมาเจอกับเพื่อนใหม่ที่ธรรมศาสตร์แห่งนี้ ถ้าเป็นภาษาของเพื่อนใหม่จะใช้คำว่าจังหวะนรก จังหวะโบ๊ะบ๊ะ ที่เลือกหัวข้อให้ผมมาพูดประชาธิปไตย เสรีภาพ และความยุติธรรม” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนอยากพูดเกี่ยวกับ 3 หลักสำคัญนี้ ที่กลายมาเป็นวิถีก้าวไกล ตั้งแต่เขายุบอดีตอนาคตใหม่ แทบจะไม่ต่างกันเลยในวิธีการทำงานทางการเมืองกับสิ่งที่ธรรมศาสตร์ได้สอนตนมา และไม่ใช่แค่คนคนเดียว แต่คือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายรังสิมันต์ โรม ที่ร่วมกันตั้งพรรค เพื่อให้ 3 คำที่ธรรมศาสตร์ปลูกฝังออกมา เหมือนเป็นธาตุธาตุหนึ่ง เป็น DNA ของพรรคก้าวไกล ซึ่งมีความใกล้เคียงกัน
นายพิธา ระบุว่า ประชาธิปไตยคือระบบที่ทำให้ความแตกต่าง สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยคิดถึง วันแมนวันโหวต ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน ยึดโยงกัน ประชาชนจำนวนมากที่อยู่ในประเทศนี้
“แต่การจะเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ คนที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่คนเลือกมากที่สุด สามารถจัดตั้งรัฐบาล เป็นตัวแทนกว่า 27 ล้านเสียง เพียงแค่วุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ใช่สิ ลากตั้ง ไม่มาประชุม เขาสัญญากับผมว่าเขาเห็นด้วยเสียงข้างมาก และจะโหวตตาม แต่วันที่มีการโหวตจริง กลับอยู่ญี่ปุ่น อยู่ยุโรป แค่ไม่มาเป็นองค์ประชุม สามารถล้มแคนดิเดตนายกฯ ที่มาจากประชาชนได้ แล้วเราอยู่ในระบบประชาธิปไตยที่บอกว่าคนเท่ากัน
ขณะเดียวกันมีวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง 250 คนสามารถบอกได้ โหวตสวนได้ ตรวจสอบคุณสมบัติของนายกฯได้ แต่ใครเป็นคนตรวจสอบของวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง แล้วเราจะเลือกตั้งไปทำไม” นายพิธา กล่าว
ในช่วงท้าย นายพิธา ได้อวยพรให้เฟรชชี่ทุกคนภายในงาน ได้ประสบความสำเร็จ ขอให้ทุกคนกล้าคิด กล้าฝัน กล้าที่จะทำอะไรให้ออกนอกกรอบ และคุณต้องอยู่ไม่เป็น เพราะถ้าทุกคนอยู่เป็น โลกไม่มีวันเปลี่ยน
หลังจากบรรยาย นายพิธาได้ร่วมภ่ายภาพเซลฟี่กับคณาจารย์ และน้องๆนักศึกษา โดยได้รับเสียงกรี๊ด ให้กำลังใจ และยกกระบองลมสีส้มให้กำลังใจ